สำรวจพบโบราณสถาน22วัดร้าง เตรียมเสนอตั้งอุทยาน
นายธนิศักดิ์ อุ่นตา วัฒนธรรม จ.นครพนม เปิดเผยว่า ในอดีต จ.นครพนม ตามปรากฏในตำนานอุรังคธาตุ (พระธาตุพนม) เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณที่มีความสำคัญ ซึ่งอยู่ในยุคของอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ที่รุ่งเรือง และสันนิษฐานว่าเป็นเมืองศรีโคตรบูรณ์โบราณซ้อนยุค ก่อนที่เมืองนี้จะตกเป็นของอาณาจักรประเทศสยาม เมื่อพ.ศ.2321 จากนั้นมาจึงย้ายเมืองมาอยู่บริเวณบ้านเมืองเก่า ต.ท่าค้อ อ.เมืองนครพนม กระทั่งในพุทธศตวรรษที่ 15-16 สมัยที่ขอมเรืองอำนาจเมืองศรีโคตรบูรณ์จึงกลายเป็นเมืองร้างในที่สุด
ทางสำนักงานวัฒนธรรม จ.นครพนม ได้มีโครงการสำรวจแหล่งโบราณคดีและโบราณสถาน เพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานกลุ่มโบราณสถานบ้านเมืองเก่านครพนมขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบค้นร่องรอยของอาณาจักรและเมืองเก่าในอดีต และเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการค้นหาหลักเมืองเดิม แต่ก็ยังไม่ชี้ชัดหลังพบร่องรอยกำแพงเมือง หลักศิลาจารึก สิม ซากโบสถ์ ซากเจดีย์ ใบเสมา พระพุทธรูปโบราณ เศียรพระ เศษกระเบื้องและเศษไหโบราณจำนวนมากที่กระจัดกระจายใน 3 ตำบลของ อ.เมืองนครพนม
จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีกลุ่มวัดที่ค้นพบโบราณ สถานและโบราณวัตถุแยกเป็นวัดในตัวเมือง 16 วัด และนอกเมือง 6 วัด ส่วนใหญ่เป็นวัดร้างอยู่ในบริเวณ บ.เมืองเก่า บ.หนองจันทร์ ต.ท่าค้อ ใน ต.ดงขวาง ต.บ้านกลาง และในเขตเทศบาลเมืองนครพนมบางส่วน รวมทั้งหมด 22 วัด ในจำนวนนี้มีพระธาตุเมืองเก่า บ.เมืองเก่า หมู่ 2 และเจดีย์วัดป่าแก่งเมือง บ.หนาด หมู่ 3 ต.บ้านกลาง ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้แล้ว
คาดว่าแหล่งโบราณสถานและ แหล่งโบราณคดีดังกล่าวน่าจะเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ของการตั้ง เมืองเก่านครพนมในครั้งอดีต ซึ่งจะได้เร่งรวบรวมข้อมูลและหลักฐานที่ปรากฏ เพื่อขอจัดตั้งเป็นอุทยานกลุ่มโบราณสถานเมืองเก่านครพนมต่อสำนักศิลปากรที่ 10 จ.ร้อยเอ็ด เพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าและเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคตได้ต่อไป
ที่มา...หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2552