รับพระตุ๊ดเณรแต๋วมีทุกแห่ง แต่เสียหายน้อยกว่าเสพเมถุน
พระมหาเฉลิมพงษ์ กตปุญโญ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดตรัง เปิดเผยถึงกระแสข่าวของพระตุ๊ด เณรแต๋ว ที่ถูกนำมาเผยแพร่ทางสื่อจนเป็นข่าวโด่งดังในช่วงก่อนหน้านี้ว่า จริงๆ แล้วพระตุ๊ด เณรแต๋วมีอยู่ทุกจังหวัด เพียงแต่จะมีการแสดงออกซึ่งจริตที่เป็นอยู่ในแต่ละตัวบุคคลหรือไม่ โดยการแสดงออกซึ่งจริตที่ไม่เหมาะสมออกสู่สาธารณะ ถือเป็นการประพฤติที่ผิดจริยาวัตรของพระสงฆ์ แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรง ดังนั้น พระผู้ปกครองหรือเจ้าอาวาสวัดจะต้องเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบในการอบรมแก่พระ ตุ๊ด เณรแต๋วเหล่านั้น ที่เข้มงวดขึ้นกว่าเดิม เพื่อไม่ให้สร้างความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา โดยพระภิกษุหรือสามเณรที่ทราบตัวเองว่ามีจริตที่ไม่เป็นชายแท้หรือมีจริตดัง กล่าวติดตัวมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเข้ามาสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ก็ควรที่จะต้องปฏิบัติตนตามหลัก 4 จริยาวัตรของสงฆ์ โดยจะต้องไม่แสดงจริตดังกล่าวในที่สาธารณะ เพื่อเป็นตัวอย่างอันดีงามในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวของพระตุ๊ด เณรแต๋ว ที่เคยเกิดขึ้นมานั้นมิได้ส่งผลกระทบต่อพระภิกษุ-สามเณรทั่วไป เนื่องจากประชาชนมีความเข้าใจว่าเป็นเพียงเฉพาะตัวบุคคลเท่านั้น โดยไม่มีการกล่าวรวมทั้งหมด ต่างไปจากกระแสข่าวของพระสงฆ์ที่ลักลอบเสพเมถุน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อภิกษุ สามเณรเป็นอย่างมาก เนื่องจากพระสงฆ์ยังคงต้องออกไปบิณฑบาต ดังนั้น เมื่อมีกระแสข่าวดังกล่าวออกมาจึงสร้างความเข้าใจที่ผิดแก่ประชาชน โดยแท้จริงแล้วพระสงฆ์ก็ยังเป็นปุถุชนทั่วไป ที่จะต้องละทางโลกให้ได้ทั้งหมด เพื่อการปฏิบัติธรรมให้บรรลุถึงโสดาบัน
ทั้งนี้ หากพระสงฆ์รูปใดไม่สามารถปฏิบัติได้ก็ควรที่จะลาสิกขาออกไป เพื่อการใช้ชีวิตตามความต้องการของจิตใจ และไม่ควรแฝงกายในผ้าเหลือง จนสร้างความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา อย่างไรก็ตาม การที่เป็นพระตุ๊ด เณรแต๋ว หรือพระสงฆ์ที่ลักลอบเสพเมถุนนั้น ถือว่าไม่ได้เกิดมาจากสุขภาพจิตที่ไม่ดี แต่เป็นเพราะความต้องการส่วนบุคคลที่ไม่เป็นผลดีต่อพระพุทธศาสนา เนื่องจากสุขภาพจิตทั่วไปของสงฆ์ส่วนใหญ่ดีกว่าประชาชนทั่วไปอย่างแน่นอน เพราะสงฆ์ไม่ต้องประสบกับสภาวปัญหาของสังคมโลก
ที่มา...หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2552